AREA เผยผลสำรวจราคาประเมินที่ดินเขตพื้นที่ชั้นในปรับตัวสูงสุด

 

AREA เผยผลสำรวจราคาประเมินที่ดินเขตพื้นที่ชั้นในปรับตัวสูงสุด พื้นที่สยามพารากอนแชมป์ราคาที่ดินสูงสุด 8 แสนบาทต่อตร.วา แซงหน้าสีลม ราคา 7 แสนบาทต่อตร.วา เหตุอัตราผลตอบแทนทางโครงการศูนย์การค้าสูงกว่าอาคารสำนักงาน ขณะที่ราคาขายจริงสาทรนำโด่ง ล่าสุด บริษัทธนายงฯขายต่อที่ดินย่านสาทรซอย 11 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ ตร.วาละ 8 แสนบาท ฟันกำไรเกือบ 100% ชี้เหตุราคาที่ดินในเมืองปรับสูง เพราะที่ดินดิบแนวรถไฟลดลง ส๋วนความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตใจกลางเมือง(ซีบีดี) ปรับตัวค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับการปรับราคาที่ดินในย่านรอยต่อระหว่างเมืองและพื้นที่ รอบนอกเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ราคาที่ดินขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับพื้นที่ที่มีราคาขายปรับตัว ขึ้นสูงมากในช่วง1ปีที่ผ่านมาคือ พื้นที่ในย่านสาทร ,เอกมัย ,สุขุมวิท และถนนวิทยุ โดยในส่วนของพื้นที่สาทร มีราคาขายปรับตัวสูงที่สุดในช่วงที่ผ่านมาคือ ที่ดินในย่านสาทร11 ซึ่งบริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) (TYONG) ซื้อมาในราคา 4.5 แสนบาทต่อตารางวา (ตร.วา) ในช่วงต้นปี และได้ขายออกไปในช่วงไตรมาส3ที่ผ่านมา ในราคา8 แสนบาทต่อตร.วา หรือราคาขายเพิ่มสูงขึ้นเกือบ100% ในขณะที่ราคาที่ดินในย่านสุขุมวิทซอยนานา ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 7.5 แสนบาทต่อตร.วา สูงขึ้นกว่า 120% เมื่อเทียบจากราคาขายเดิม 3.5 แสนบาทต่อตร.วาในปีที่ผ่านมา

ที่ดินย่านสุขุมวิท ซอยเอกมัย ราคาขายในปีนี้ขยับมาอยู่ที่ 4 แสนบาทต่อตร.วาจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อตร.วา

ส่วน ที่ดินในย่านรอยต่อเมืองชั้นนอกและชั้นใน มีการปรับตัวสูงขึ้นในอัตรที่ไม่มาก โดยในพื้นที่รัชดาภิเษกราคาขายปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.6-2.7 แสนบาทต่อตร.วา จากในปี 50 ราคาขายอยู่ที่ 2.5 แสนบาทต่อตร.วา

ทั้งนี้ สาเหตุของราคาขายที่ดินใจกลางเมืองปรับตัวสูงขึ้นมาก เนื่องมากจากความนิยมหรือแนวโน้มการเลือกพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ในตลาดช่วง1-2ปีที่ผ่านมา ให้ความสำคัญการเลือกพื้นที่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานให้เช่า ห้างสรรพสินค้า อพาร์ตเมนต์ โรงแรม อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าเขตกลางเมืองมากขึ้น ทำให้ที่ดินดิบกลางเมืองมีจำนวนลดลง ในขณะที่ความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ที่ดินในเมืองปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริษัทฯ กล่าวว่า จากการสำรวจราคาซื้อขายที่ดินในพื้นที่กทม. พบว่า ทำเลทองคือ บริเวณสยามพารากอน ราคาประเมินที่ดินแพงที่สุด ตร.วาละ 8 แสนบาท อันดับสอง พื้นที่สีลม ตร.วา ละ 7 แสนบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่สีลมราคาประเมินที่ดินต่ำกว่าสยามพารากอน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เหมาะจะพัฒนาเป็นสำนักงานมากกว่าศูนย์การค้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนของโครงการศูนย์การค้าจะสูงกว่า

อันดับสาม พื้นที่เยาวราช ตร.วาละ 6.5 แสนบาท ลดลงจากปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเคยประเมินไว้ตร.วาละ 7.5 แสนบาท เพราะพื้นที่เยาวราชเป็นย่านการค้าเดิมที่ถดถอยลงในปัจจุบัน ส่วนอันดับที่4และ5 เป็นที่ดินย่านถนนวิทยุและถนนสาทร มีราคาตร.วาละ 6 แสนบาท และอันดับ6 สุขุมวิทแถวไทม์แสควร์ ตร.วาละ 5 แสนบาท

จากผล การสำรวจดังกล่าว สามารถสรุปได้ว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินโดยเฉลี่ยมีราคพิ่มขึ้น 3.5%และคาดว่าปีหน้า ราคาเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นในอัตราลดลงเหลือ 3.0% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งจะส่งผลต่อการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของภาคอสังหาฯ อย่างไรก็ตาม จะมีบางพื้นที่บริเวณที่มีรถไฟฟ้าผ่าน จะมีราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ขณะที่พื้นที่ซึ่งผังเมืองกำหนดให้ก่อสร้างได้จำกัด กลับมีราคาลดต่ำลงบ้าง

ที่มา ผู้จัดการรายวัน 26 กันยายน 2551

บทความนี้อ้างอิงจาก :
http://www.gotomanager.com